Back To News Releases

บราเดอร์ ส่ง ‘PR1X’ จักรปักเอนกประสงค์หนุนรุกขยายฐานกลุ่ม SMEs สนับสนุนคนไทยสร้างแบรนด์เพิ่มมูลค่าสู่ตลาดโลก

29 May 2024
Product News
1_Brother-PRX1
1_Brother-PRX1

บราเดอร์ส่ง ‘PR1X’ จักรปักเอนกประสงค์หนุนสร้างอาชีพรับการเติบโตของเทรนด์ Personalization ซึ่งดันผลิตภัณฑ์จักรปักในไทยให้มีปริมาณการซื้อขาย (volume) ของตลาดสูงเป็นอันดับต้นๆ ของ อาเชียน ชวนคนไทยลงทุนจักร สร้างอาชีพกับบราเดอร์

2_Brother-PRX1

พงษ์พันธ์ สุระวัฒน์เจริญ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขยายธุรกิจ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์ของตลาดจักรปักกำลังมุ่งสู่การเป็น Personalization เพิ่มมากขึ้น จากอดีตที่อาจจะเห็นผลงานของจักรปักอยู่บนชุดนักเรียน โลโก้ แต่ 3-4 ปีที่ผ่านมาตลาดมีการพัฒนาอย่างมาก จักรปักถูกนำมาใช้ผลิตชิ้นงานที่เพิ่มไอเดียการออกแบบหลากหลายสไตล์ในแนวแฟชั่นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มที่ผ่านมาบราเดอร์มุ่งพัฒนาจักรเพื่อเสริมศักยภาพของกลุ่มธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะ ทำให้บราเดอร์มีความแข็งแกร่งมากในกลุ่มนี้ ส่งผลให้บราเดอร์สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในปัจจุบัน

“การพัฒนาระบบ User Interface คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้จักรปักบราเดอร์เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในสายตาผู้บริโภค เพราะใช้งานง่าย สะดวก และมีฟังก์ชันให้ใช้อย่างหลากหลาย พร้อมอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ชิ้นงานมีเอกลักษณ์เฉพาะ นอกจากนี้ คุณภาพบริการหลังการขายก็เป็นอีกปัจจัยหลักที่บราเดอร์ให้ความสำคัญ ปัจจุบันมีศูนย์บริการอยู่ทั่วประเทศเพื่อรองรับการให้บริการได้อย่างครอบคลุม” พงษ์พันธ์ กล่าว

3_Brother-PRX1

ด้านนัจวริษฐ์ ถิระพุทธิพงษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขยายธุรกิจ กลุ่มผลิตภัณฑ์จักรเย็บผ้า กล่าวถึงกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตต่อเนื่องในปี 2567 ว่า นอกจากจะมุ่งขยายช่องทางการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์แล้ว บราเดอร์ยังพุ่งเป้าขยายฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจแฟชั่นไลฟ์สไตล์ และกลุ่มธุรกิจการศึกษาด้านแฟชั่น ตลอดจนสนับสนุนกิจกรรมของแฟชั่นแบรนด์ทั้งของไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง “เรายังคงใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อสร้าง Community สำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานด้านเย็บปักถักร้อยเป็นหลัก งปัจจุบันจักรบราเดอร์มีสมาชิกในโลกโซเชียลเกือบแสนราย ผ่านช่องทาง facebook.com/BrotherSewingClubThailand/ ทำให้เพิ่มศักยภาพในการเข้าถึง ส่งผลให้ตลาดของบราเดอร์กระจายตัวเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมกันนี้เราได้ใช้กลยุทธ์การรุก พื้นที่ชุมชนเพื่อสร้าง Offline Community ควบคู่กันไปด้วย” นัจวริษฐ์ กล่าว

4_Brother-PRX1

จักรปักเอนกประสงค์คุณภาพระดับมืออาชีพจากประเทศญี่ปุ่น ‘บราเดอร์ PR1X’ ดีไซน์ทันสมัย ที่ช่วยสร้างสรรค์งานปักแบบไม่มีสะดุดด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชันใหม่ๆ ที่ถูกออกแบบมาอย่างใส่ใจในรายละเอียด เพิ่มความคล่องตัวในทุกโปรเจกต์ อาทิ ระบบสนเข็มที่สะดวกยิ่งกว่า เลเซอร์กำหนดตำแหน่งปักรูปกากบาทเพื่อเพิ่มความแม่นยำ สามารถใช้งานได้กับสะดึงที่หลากหลายให้พร้อมกับทุกงานปักทั้งหมวกปีกแบน กระเป๋า แจคแกต รองเท้า ฯลฯ มาพร้อมพื้นที่ปักขนาดใหญ่ (200×300 มม.) หน้าจอระบบสัมผัสแบบ LCD ขนาด 7 นิ้ว เฉดสีสดใสสะดุดตามากกว่า 260,000 สี สามารถแก้ไขตัวอักษรและกราฟฟิกหน้าจอได้สะดวก พร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่นอื่นๆ อาทิ ลายปักและตัวอักษรหลากหลายรูปแบบ ที่สามารถทำเป็น 3 มิติได้ในตัวเครื่อง กำหนดตำแหน่งโดยการปรับมุมได้อัตโนมัติ มีระบบปรับความตึงของด้าย พัฒนาสะดึงแม่เหล็กให้ยึดผ้าให้ตึงอย่างง่ายดายเพื่อพร้อมในทุกการปัก นอกจากนี้ บราเดอร์ยังได้พัฒนาอุปกรณ์เสริมอีกมากหมายให้เลือก เพื่อจินตนาการงานปักที่ไม่มีสะดุด ทั้งยังมีวิดีโอในการเรียนรู้การใช้งานให้ด้วย

ปัจจุบันจักรปักเอนกประสงค์ ‘บราเดอร์’ มีให้เลือก 6 รุ่น ประกอบไปด้วย รุ่นมาตรฐาน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น M330E ราคา 31,900 บาท รุ่น M380D ราคา 45,900 บาท รุ่น NV880E ราคา 59,900 บาท และรุ่นไฮเอนด์ 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น PR1X ราคา 179,000 บาท รุ่น PR680W ราคา 349,000 บาท และรุ่น PR1055X ราคา 399,000 บาท

“ในยุคนี้หลายภาคส่วนหันมาผลักดันด้านทักษะอาชีพรวมถึงการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนโดยเพิ่มสายอาชีพเป็นทางเลือกให้เด็กรุ่นใหม่ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเอื้อต่อการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์จักรปัก “ปัจจุบันในต่างประเทศได้นำจักรปักมาผสมผสานกับรูปแบบการดีไซน์ในแนวอื่นๆ เช่นออกแบบผสมกับงานพิมพ์ หรือวัสดุพื้นผิวที่หลากหลาย ซึ่งเป็นแนวทางในการเพิ่มมูลค่าที่ดีมาก บราเดอร์จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการจุดประกายไอเดียใหม่ๆ เหล่านี้ในประเทศไทย เพราะปัจจุบันตลาดเครื่องนุ่งห่มของไทยยังไม่เด่นชัดด้านดีไซน์ที่ผสมผสาน เพราะส่วนใหญ่เราจะอยู่เบื้องหลังในแบบ OEM เป็นหลัก การที่บราเดอร์รุกตลาด SMEs นั้น จะเป็นการขับพลังสร้างสรรค์ในตัวผู้ประกอบการไทยให้ออกมา และสร้างอัตลักษณ์ตัวตนให้เกิดขึ้น เพิ่มมูลค่าเปิดกว้างตลาดจากในประเทศสู่ตลาดโลก ซึ่งจะเป็นการยกระดับมาตรฐานประเทศไทยสู่สากลได้เช่นกัน” พงษ์พันธ์ กล่าวสรุป